Skip to content

Instantly share code, notes, and snippets.

@lifez
Created January 5, 2017 06:14
Show Gist options
  • Select an option

  • Save lifez/df07adb3dbeaa177c10e89e3edcde7a8 to your computer and use it in GitHub Desktop.

Select an option

Save lifez/df07adb3dbeaa177c10e89e3edcde7a8 to your computer and use it in GitHub Desktop.
#ซื้อกล้องที่มาเลเซีย
เกี่ยวกับการไปซื้อกล้องที่มาเลเซียที่ผมไปคอมเมนท์ไว้ในกระทู้นึง มีคน Inbox มาถามเยอะมากกกกกกกกก บางคนก็ไม่ยอมอ่านรายละเอียดจริงๆ ถามซ้ำๆ ผมตอบไม่ไหว ขอมาตอบโดยรวมรายละเอียดที่นึกออกและถูกถามซ้ำๆไว้ตรงนี้เลยดีกว่าครับ แอดมินเห็นว่าไม่เหมาะสม จะลบก็ลบไป ผมไปแชร์ FB ผมเองก็ได้ เดี๋ยวก็มีสมาชิกไปแชร์ต่ออยู่ดี เพราะเห็นว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์กับคนกลุ่มใหญ่ แต่อาจน่าหมั่นใส้สำหรับคนค้าของมือสองหรือกำลังปล่อยของอยู่ หรือคนที่เพิ่งซื้อป้ายแดงศูนย์ไทยในราคาเต็มมา
.
ยาวหน่อย แต่ควรอ่านให้เกิน 7 บรรทัด จะได้ประโยชน์สำหรับท่านที่กำลังคืดจะซื้อครับ สงสัยอะไรเพิ่มที่ไม่มีในที่ผมพิมพ์มา ถามได้ครับ เผื่อผมลืมรายละเอียดปลีกย่อย สงสารคนพิมพ์ตอบเถอะ แก่แล้ว หูตาไม่ค่อยจะดี ใช้จิ้มดีดเอา นึกไรออกจะมาเพิ่มเติมให้เป็นระยะๆ
.
******ทำไมกล้อง Sony ที่มาเลเซียถูกมาก?*****
.
มาจากสาเหตุหลักคืออัตราแลกเปลี่ยนครับ ช่วงนี้เงินริงกิตอ่อนค่ามากๆ ราคากล้องคิตเป็นริงกิตเขาก็ขายเท่าๆเดิมเหมือนที่เคยขาย แต่เราจ่ายเงินบาทไปแลกเป็นเงินของเขาน้อยลงกว่าเดิม และโดยปกติ สินค้าโซนี่ในมาเลเซียจะราคาต่ำกว่าบ้านเราเป็นทุนอยู่แล้ว เมื่อบวกกับนโยบายคืนภาษีให้นักท่องเที่ยวอีกราวๆ 5% เลยยิ่งถูกไปกันใหญ่ ส่วนแบรนด์อื่นๆก็ลดลงเช่นกัน แต่อาจมีปัญหาเรื่องการรับประกันสินค้าซึ่งต่างจากโซนี่ซึ่งมี Tourist Limited Warranty ที่สามารถใช้สิทธ์การรับประกันได้เหมือนกล้องที่ซื้อในไทยทุกประการ (แต่ Canon ก็สามารถใช้สิทธิ์ International Warranty ได้ 1 ปีเช่นกัน) และที่จริงแล้ว สินค้าอื่นๆก็ถูกลงเช่นกัน เช่น Leica ก็เหมือนได้ลด 20% จากส่วนต่างของอัตราแลกเปลี่ยน แต่ควรตรวจสอบราคาให้ชัดๆก่อน ยิ่งสินค้าราคาสูง ยิ่งคุ้มต่อส่วนต่างที่เกิดขึ้น
.
******ถูกกว่าขนาดไหน?******
.
ผมยกตัวอย่างราคาตามเว็บนี้เลยครับ http://www.ylcamera.com.my/products/sn-a7mk2 เป็นร้านใหญ่แห่งนึง เอาเป็น Ref. ได้ อัตราแลกเปลี่ยนเอา 8 บาทคูณโดยประมาณ จะเห็นได้ว่า บอดี้ A7Mk2 ราคา 34,824 บาท เมื่อเคลมภาษีจะได้เงินคืนอีกราว 5% เหลือแค่ 33,082 บาท ไปถึงที่นู่น เกือบทุกร้านเท่าที่เช็คราคาได้ ราคาก็จะประมาณนี้หมด เช็คราคาแต่ละรายการไปก่อนจากเว็บนี้ได้หรือที่อื่นก็ได้ แต่บางรายการราคาพอๆกับบ้านเรา ต้องดูให้ดีๆ และสอบถามให้ชัดๆว่ามีของหรือปล่าว ตอนผมไป บางร้านก็ไม่มีของ
.
อัพเดทราคากล้องเลนส์พิมพ์นิยมหลายๆตัวให้ทราบราคานะครับ (@ 3ธค 59) ถ้าจะบินไปซื้อกรุณาตรวจสอบราคาจริงกับทางร้านเอาเอง และสอบถามก่อนว่ามีของหรือไม่ เพราะบางรายการของอาจหมด ราคาที่ผมเอามาให้ดูเป็น Ref. เท่านั้น เพราะร้านค้าใน KL ราคามันพอๆกันหมด ผมเอาราคาจากหน้าเว็บมา หน่วยจะเป็นริงกิตมาเลเซีย อัตราแลกเปลี่ยน ผมคำนวนที่ 8 บาทกลมๆต่อ 1 ริงกิต แล้วกัน ราคาสุทธิหลังหักคืนภาษีประมาณ 5% อยู่ในวงเล็บ เป็นเงินบาท
.
*****Camera
Sony A7 Mark II @4353 RM (33,082 Bht.)
Sony A7 Mark II + FE 28-70mm f/3.5-5.6 OSS @5214 RM (39,626 Bht.)
.
*****Lens
- Sony FE 50mm f/2.8 Macro G @2,052 RM (15,595 Bht.)
- Sony A 70-200mm f/2.8 G SSM II @8,798 RM (66,864 Bht.)
- Sony Zeiss Planar T* FE 50mm f/1.4 ZA @6,850 RM (52,060 Bht.)
- Sony FE 50mm f/1.8 @948 RM (7,204 Bht.)
- Sony FE 85mm f/1.4 GM @7,318 RM (55,616 Bht.)
- Sony FE 24-70mm f/2.8 GM @9,120 RM (69,312 Bht.)
- Sony Zeiss Vario-Tessar T* FE 16-35mm @3,957 RM (30,073 Bht.)
- Sony FE 24-240mm f/3.5-6.3 OSS @4,027 RM (30,605 Bht.)
- Sony FE 28mm f/2 @1,785 RM (13,566 Bht.)
- Sony Zeiss Distagon T* FE 35mm f/1.4 ZA @6,360 RM (48,336 Bht.)
- Sony FE 70-200mm f/4 G OSS @3,775 RM (28,690 Bht.)
- Sony Zeiss Sonnar T* FE 35mm f/2.8 ZA @2,554 RM (19,410 Bht.)
- Sony Zeiss Sonnar T* FE 55mm f/1.8 ZA @2,749 RM (20,892 Bht.)
- Sony Zeiss Vario-Tessar T* FE 24-70mm f/4 ZA OSS @3,294 RM (25,034 Bht.)
- Sony FE 90mm f/2.8 Macro G OSS @4,018 RM (30,536 Bht.)
.
******มีประกันศูนย์ไหม เข้าศูนย์ไทยได้หรือปล่าว?******
.
การรับประกันของโซนี่ที่มาเลเซียมี 2 แบบคือ Local Warranty กับ Tourist Limited Warranty ดังนั้นแจ้งร้านด้วยว่าเราจะซื้อแบบ Tourist เขาจะขอพาสปอร์ตเราไปด้วยเพื่อทำเรื่อง ออกเอกสารให้เราไปทำคืนภาษีที่สนามบิน ส่วนท่านที่ไปทางรถ ไม่สามารถทำคืนภาษีได้ เพราะไม่มีหน่วยบริการด้านคืนภาษี ณ ด่านทางภาคพื้นดิน การรับประกันผมโทรเช็คกับทางโซนี่ไทยแล้ว ได้รับการยืนยันว่าเข้ารับบริการได้เหมือนกล้องศูนย์ไทยทุกประการ หรือประกัน 1 ปีเต็ม แต่ซื้อบ้านเราจะได้ราว 15 เดือนมั้งและสามารถซื้อประกันเพิ่มได้
.
******Tourist Limited Warranty (TLW) คืออะไร?******
.
มันคือการรับประกันสำหรับสินค้าโซนี่ที่จำหน่ายในภูมิภาคเดียวกัน เช่น โซนเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ก็จะมี มาเลเซีย สิงค์โปร์ ไทย เวียดนาม บลาๆๆ เงื่อนไขนี้เขามีไว้ขายนักท่องเที่ยวเท่านั้น ดังนี้น "เวลาซื้อต้องแสดงพาสปอร์ต" เราสามารถนำกล้องไปรับบริการในประเทศไหนก็ได้ที่บัตร TLW ที่ระบุโซนไว้ "บัตรโซนไหน เข้า 0 โซนนั้น ข้ามโซนบ่ได้เด๊ออออ" ซึ่งตรงนี้เป็นนโยบายทางการค้าของโซนี่เขา อยากรู้มากกว่านี้โทรถามโซนี่นะแจ๊ะ
.
******การเดินทางและลายแทง******
.
ราคาตั๋วปกติไมมีโปรฯจองวันนี้พรุ่งนี้บิน ไปลง KL ก็ราว 4 พันบาทแล้วแต่ช่วง ถ้าได้ตั๋วโปรฯก็ประหยัดมากขึ้นไปอีก อาจเหลือแค่พันกว่าหรือสองพัน ถ้าจะค้างสักคืนสองคืน ค่าที่พักกลางๆ ที่พออาศัยซุกหัวนอนได้ สะอาด เดินทางสะดวกก็ราวๆ 1 พันบาท หาดูจากใน Agoda ก็ได้ ที่นี่กลางคืนจะเงียบมาก สถานบันเทิงไม่ค่อยมีเนื่องจากเป็นเมืองมุสลิมและเคร่งศาสนา 2 ทุ่มก็เหมือน 5 ทุ่มบ้านเราแล้ว
.
การเตรียมเงินไป หากจะซื้อของหลักแสน แนะนำให้ไปแลกกับ Super Rich จะได้เรทดีกว่าที่สนามบินพอสมควร โดยเฉพาะการแลกเงินไปเยอะๆเพื่อซื้อสินค้าราคาสูงๆ ส่วนกรณีซื้อแค่ 4-5 หมื่น ผมว่าแลกที่สนามบินก็ได้ เอาสะดวกดีกว่า เพราะค่าเดินทาง+ค่าเสียเวลาไปแลก บางทีพอๆกับส่วนต่างที่ไปแลกกับ Super Rich
.
ไม่แนะนำให้รูดการ์ดในวงเงินเยอะๆ เพราะจะถูกธนาคารชาร์จเพิ่มอีก 2% เป็นค่าความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และบางร้านอาจชาร์จอีก 3% เช่น ซื้อของแสนนึง เจอชาร์จเหล่านี้เงินหายไป 5 พันแล้ว ดังนั้นประเมินมูลค่าของที่จะซื้อให้ดีก่อน จะได้กำหนดวงเงินที่จะแลกไปได้เหมาะสม เพราะกรณีแลกไปมากเกินไป ขากลับมาเมื่อแลกคืน มันโดนหักเรทซื้ออีก เช่นขาไป แลกไป 8.1 ขากลับ มาแลกคืนจะได้เพียง 7.8 หายไป 30 สต./ริงกิต เจอแลกคืนไปสัก 5000 ริงกิต หรือ 4 หมื่นบาท ตังหายไปอีก 1500 บาทนะครัช
.
เมื่อไปถึง ลงเครื่อง ซื้อเน็ตซิมก่อนเลย ไม่แพงครับ ราว 2-3 ร้อย อยู่ได้ 7 วันมั้ง เอาไว้ Live ให้เพื่อนๆดูว่ากรูมาซื้อกล้องถูก อิจฉาป่ะ อิๆๆๆ พอออกจากสนามบินมา นั่งรถไฟฟ้าดิ่งเข้าเมืองมาเลย ระยะทางประมาณ 60 กม. ค่าตั๋วรถหรูก็แพงหน่อย ราว 4 ร้อยบาทกว่าถ้าจำไม่ผิด เร็วและสะดวก รถธรรมดาก็มี ถูกกว่าครึ่งนึงมั้ง แต่เสียเวลามาก และอาจไม่เหมาะกับพวกไปเช้าเย็นกลับที่ต้องทำเวลา โดยมันจะมาจอดที่ชุมทาง KL Sentral คล้ายๆหัวลำโพงบ้านเรา จากนั้นค่อยต่อรถไฟฟ้าไปอีกยังห้าง Low Yat Plaza อีกหน่อย ราว 3-4 สถานี ไม่ไกลมาก ราวๆ 4-5 กม นั่งแท็กซี่สะดวกกว่า หรือถ้าไม่รีบก็ต่อรถไฟฟ้าจากตรงนั้นเอา ส่วนตึกแฝด จะอยู่ห่างจาก Low Yat Plaza ไปราว 2-3 กม นั่งแท๊กซี่ไปก็ได้ ขากลับก็ทางเดิม กลับเข้า Terminal ที่สนามบินได้เลย
.
แหล่งซื้อมีกระจายตัวทั่ว KL ผมก็ทำการบ้านก่อนไปพอสมควร เมื่อไปถึง ผมโทรถามหลายร้านที่มีเว็บเพื่อเช็คราคาคร่าวๆ แต่ท้ายสุดผมเลือกไปที่ Low Yat Plaza ซึ่งเป็นตึกไอทีมอลล์เหมือนพันทิพหรือฟอร์จูนในบ้านเรา เพราะมีร้านกล้องรวมตัวกันอยู่หลายร้านสะดวกดี เผื่อซื้ออย่างอื่นด้วย
.
ตึก Low Yat Plaza อยู่ใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ หาไม่ยาก แท็กซี่ทุกคันรู้จัก ค่าแท๊กซี่ไม่ค่อยแพงมากนัก พอๆกับบ้านเรา ที่จริงมีร้านกล้องกระจัดกระจายอยู่ตามห้างอีกหลายแห่ง ราคาก็ใล่เรี่ยกันหมด ซื้อเสร็จสามารถนั่งรถต่อไปเดินเล่นที่ตึกแฝดได้เลย อยู่ห่างไปอีกราวๆ 2 กม กว่าๆ ดินเรื่อยๆแป๊บเดียวถึง ถ้าไม่หลงนะ 5555 ก่อนไป ผมซื้อแบตมาจากไทยรอไว้ก่อนก้อนนึงแล้ว ชาร์จจนเต็ม ไปถึงที่นู่นซื้อเสร็จผมก็สามารถใช้งานกล้องได้เลย เดินถ่ายอะไรเรื่อยเปื่อยได้ แต่กินแบตชะมัด ถ่ายแบบเรื่อยๆเบ็ดเสร็จใช้แบตราว 3 ก้อนต่อวัน
.
ในตึก Low Yat Plaza มีร้านอยู่หลายร้าน (เป็นสิบ) เดินดูและถามราคาดูก่อนหลายๆร้าน มีร้านแผงบางร้านรอจับหมูอยู่ ผมไปถามมัน มันวิ่งหายไปแป๊บนึง เห็นหลังไวๆ วิ่งเข้าร้านใหญ่นี่แหละ 5555 เราเดินเข้าร้านใหญ่หน่อยจะดีกว่าราคาจะมาตรฐานใกล้เคียงกันแทบทุกร้าน ส่วนลดไม่ค่อยมี ผมซื้อของร่วมๆ 2 แสน แถมฟิลเตอร์ให้อันนึงมั้ง
.
ตอนซื้อ ควรแกะกล่องลองตรงนั้นเลย เผื่อมี Defect จะได้ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องเสียเวลากลับมาเปลี่ยนอีก ส่วนคนจะซื้อมาเพื่อขายต่อแล้วไม่แกะเช็คสินค้า คงต้องวัดดวงหน่อยหละครับ (ถ้าผมเป็นคนที่จะซื้อของหิ้วต่อที่ไทย ยังไงผมจะแกะมาทดสอบก่อนแน่นอน ถ้า Defect ถึงจะมีประกัน 0 ไทยผมก็ไม่รับแน่นอน เพราะผมจ่ายเงินเพื่อซื้อของใหม่ ไม่ใช่ซื้อของซ่อม) ****อย่าลืมถามหาใบรับประกันแบบ Tourist Limited Warrantee ด้วย เพราะมันมีกล้องขาย 2 แบบคือ Local และ Tourist การรับประกันของ Local ใช้ได้เฉพาะในมาเลเซียเท่านั้น แต่ราคาจะถูกกว่าเล็กน้อย
.
“เรื่องสำคัญ” ในกรณีจะทำคืนภาษี....ร้านค้าจะให้เอกสารสำคัญมาสำหรับการทำคืนภาษี (TAX Refundable Form) พร้อมใบเสร็จ อย่าทำหาย เพราะต้องเอาไปใช้ที่สนามบินตอนขากลับ ซื้อของบิลเป็นแสน effect ภาษีหลายพันบาท แต่ถ้ารวยและขี้เกียจก็ไม่ต้อง อิๆๆ
.
ส่วนใครที่กังวลเรื่องจะโดนภาษีไหม ผมและเพื่อนที่ไปซื้อด้วยกันยืนยันว่าไม่โดนครับ ถ้าไม่ได้กระหน่ำซื้อมาอย่างผิดปกติ เช่น บอดี้เดียวกัน 3 ตัว เลนส์รุ่นเดียวกัน 4 ตัวอะไรแบบนั้น เอาแค่พอประมาณ สอดคล้องกับการใช้งานของมนุษย์ทั่วไป เพราะเวลาขาเข้า คุณต้องโดน X-Ray กระเป๋าอยู่แล้ว ถ้า จนท เขาเห็นว่ามีการนำเข้าสินค้าจำนวนมากผิดปกติแล้วไม่สำแดง รับรองไม่รอดแน่ เขาจะส่งคนมารอดักสอยตรงช่องประตูเขียวเลย พ่อค้าแม่ขายก็ระวังกันไว้ให้ดี โลภมากมักลาภหาย
.
ส่วนของผมเอง ซื้อปุ๊ป แกะใช้งานปั๊บ พับกล่องแบนๆใส่กระเป๋ามาเพราะมันเยอะและเกะกะ กินพื้นที่ และผมไม่ได้เอากระเป๋าไปโหลดของลงใต้ท้องเครื่อง ใช้ถือเป้ขึ้นเครื่องเลย ส่วนใครที่ซื้อหลายๆชิ้นและจิตตกมากๆ แนะนำให้เอากล่องเปล่ายัดใส่ลังรวมกันแล้วส่ง ปณ กลับบ้านตามมาก็ได้ แต่คิดว่าไม่น่าต้องทำขนาดนั้นหรอกครับ พับกล่องเอาแบบผมก็ได้ กลับมาถึงบ้านก็พับคืน ไม่บุบสลายแต่อย่างใด
.
เมื่อเสร็จภาระกิจช็อปก็กลับสนามบิน โดยมาขึ้นรถที่ KL Sentral ตรงดิ่งเข้า Terminal เลย เมื่อเข้าสู่โซน ผดส ขาออก มองหาเคาน์เตอร์บริการ Tax Refund ไว้ หาไม่ยาก อยู่ตรงโถงกลางด้านขวามือเลย หาไม่เจอถามยามก็ได้ เอาเอกสารยื่นไปให้เขา เขาจะตรวจๆแป๊บนึงพอเป็นพิธี แล้วอาจขอดูสินค้าที่ซื้อ แต่บางคนเขาก็ไม่ดู เมื่อเสร็จแล้ว เขาจะออก ticket ให้เราอีกอันนึงให้ไปยื่นเคาน์เตอร์คืนเงิน เคาน์เตอร์นี้จะอยู่ลึกหน่อย ต้องเดินไกลนิด ทีแรกผมหาไม่เจอเหมือนกัน เดินวนไปวนมาหลายรอบ ***เรื่องทำคืนภาษี เผื่อเวลาไว้เยอะๆหน่อยก็ดี เพราะผมทำเสร็จ แป๊บเดียว มาดูอีกทีหน้าเคาน์เตอร์มีแถวยาวเหยียดเลย
.
พอไปถึงเคาน์เตอร์ 2 ตรงนี้แป๊บเดียว ยื่นเอกสาร+เครดิตการ์ด (ชื่อในใบเสร็จจะต้องตรงกับพาสปอร์ตและบัตรเครดิต) เท่านี้เองก็จะได้เอกสารยืนยันกลับมาชุดนึง โดยจะต้องรอเงินคืนเข้าบัตรประมาณ 2 สัปดาห์ (ถ้าจำไม่ผิด) จบตรงนี้ก็เป็นอันเสร็จพิธี เดินทางกลับได้พร้อมรอยยิ้มและความฟิน ซื้อมาแล้วก็หมั่นถ่ายเยอะๆ อย่ามัวเอามานอนตู้หล่ะ เพราะเผลอแผล๊บเดียวตกรุ่นไปซะละ และไม่งั้นต่อใ้ห้ซื้อถูกแค่ไหน ถ้าไม่ใช้งานอย่างคุ้มค่า ผมว่าก็กลายเป็นแพงหมด
.
.
.
******ข้อแนะนำของผมทั้งหมดนี้ ไม่ได้แนะนำเพื่อให้ใครไปซื้อมาเพื่อการค้าหรือหากำไรนะครับ อยากแนะนำให้ซื้อหามาใช้เองมากกว่า ซึ่งท่านได้ของดีราคาถูก(ในช่วงนี้) โดยไม่ลำบากในการเดินทางมากนัก นั่งเครื่องไปราวๆ 2 ชม ก็ถึงแล้ว เร็วกว่าขับรถ กทม-พัทยา ซะอีก แต่...“ไม่ใช่สะดวกสำหรับทุกคน” นะครับ และ "อย่าเอาราคาตรงนี้ไปเป็นบรรทัดฐานในการไปต่อรองสินค้ามือสองที่เจ้าของเขาซื้อจากศูนย์ไทยในราคาแพง(มาก)" ถ้าอยากได้ถูกๆแบบนี้ ต้องออกแรงบินไปซื้อเองครับ “ใจเขา...ใจเรา” อย่าใจร้ายต่อกันเลย หรือคนหิ้วมาใช้เองแล้วเบื่อ อยากขายก็อย่าไปตั้งราคาตามกล้องที่มาจากศูนย์ไทย เราซื้อถูก ใช้คุ้มแล้วก็ขายไปถูกหน่อย ถือว่าแบ่งปันกัน เพราะคนบินไปซื้อเองได้ก็น่าจะพอมีอันจะกินอยู่******
.
ส่วนใครหิ้วมาทำกำไรก็ขอให้เอาพอหอมปากหอมคอนะครับ เพราะเดี๋ยวกระทู้นี้ก็จะเป็นตัวฟ้องต้นทุนราคาของท่านเอง บวกกำไรมากไปก็ไม่มีใครซื้อ กล้องของท่านจะบูดเสียเปล่าๆ อิๆๆๆ เพราะเดี๋ยวนี้ใครๆก็บินเองได้ ใกล้แค่นี้เอง ตั๋วก็ถูก วีซ่าก็ไม่ต้องขอ ไปเช้าเย็นกลับได้สบายๆ สะดวกพอๆกับไปพัทยา ระยอง ใครไม่กล้าไปเองก็รวมตัวกันไปซื้อก็ได้ ถ้าจะทำแบบการค้าก็คิดซะว่า "ซื้อขายแบบเอาสนุกหรือเอาเพื่อนดีกว่าเอาร่ำรวย" อย่าให้ใครเขาเรียกได้ว่า "พ่อค้า" หรือ "ฉวยโอกาส" เพราะการที่ผมมาให้ข้อมูลละเอียดแบบนี้ มันเป็นการ "แบ่งปัน" ไม่งั้นผมหิ้วมาทำกำไรเองไปแล้ว
Sign up for free to join this conversation on GitHub. Already have an account? Sign in to comment